เรียนคาราเต้ Goju-Ryu Karate เตรียมพบกับคลาสคาราเต้โกจูริว เร็ว ๆ นี้ที่ IMAC Dojo

โรงเรียนสอนการต่อสู้ IMAC Dojo มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบถึงแผนการเปิดสอน คาราเต้โกจูริว (Goju-Ryu Karate) ประมาณช่วงหลายปี พ.ศ. 2568 ซึ่งโกจูริวคาราเต้เป็นสายคาราเต้ที่โดดเด่นในด้านการผสมผสานระหว่างพลังของความแข็งแกร่งและความอ่อนโยนที่เป็นเอกลักษณ์ โดย “Goju” หมายถึงแนวทางของ “แข็ง” และ “อ่อน” ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาจีนแบบหยิน-หยาง ที่เน้นการพัฒนาร่างกายและจิตใจให้มีสมดุลอย่างลงตัว การฝึกคาราเต้โกจูริวจะประกอบไปด้วยการฝึกควบคุมการหายใจ การเพิ่มพลังจากภายใน (Sanchin Kata) และการเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล (Tensho Kata) ที่ช่วยเสริมสร้างสมดุลในการป้องกันตัว ซึ่งเป็นศิลปะที่ถ่ายทอดจากจีนผ่านการปรับปรุงโดยปรมาจารย์มิยาเกะ ชุนสุเกะ ผู้ก่อตั้งสำนักนี้ IMAC Dojo ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเตรียมตัวพบกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้สำนักโกจูริว ซึ่งจะช่วยพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน โดยเราจะมีการประกาศวันที่เริ่มต้นการเปิดสอนอย่างเป็นทางการให้ทราบอีกครั้งในเว็บไซต์ของเรา โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดการเปิดสอนเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้

ประวัติคาราเต้โกจูริว Goju-Ryu Karate

สำนัก Goju-Ryu Karate มีประวัติความเป็นมาที่ลึกซึ้งและเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสำนักคาราเต้ที่ผสมผสานปรัชญาจีนและความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว Goju-Ryu ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีรากฐานจากศิลปะการต่อสู้ของจีนและได้พัฒนาเป็นสำนักที่โดดเด่นในญี่ปุ่นในเวลาต่อมา สำนักนี้ถูกก่อตั้งโดย มิยาเกะ ชุนสุเกะ (Chojun Miyagi) ในเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของคาราเต้แบบดั้งเดิมในยุคนั้น

การถ่ายทอดวิชาและแนวคิดจากศิลปะการต่อสู้ของจีน

มิยาเกะ ชุนสุเกะ ได้รับการถ่ายทอดวิชามาจาก ฮิกาโอนะ คันริว (Kanryo Higaonna) ผู้เป็นอาจารย์ของเขา ฮิกาโอนะเองได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในเมืองฝูโจว ประเทศจีน ความรู้จากศิลปะการต่อสู้จีนที่ฮิกาโอนะได้รับส่งผลอย่างมากต่อโครงสร้างและแนวคิดของ Goju-Ryu โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดของพลัง “แข็ง” และ “อ่อน” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาสำนักนี้ การผสมผสานระหว่างการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งและทรงพลัง (Go) และความอ่อนโยนที่ยืดหยุ่น (Ju) แสดงถึงแนวคิดของปรัชญาจีน “หยิน-หยาง” ที่สะท้อนความสมดุลในทุกสิ่ง

ปรัชญาและความหมายของชื่อ Goju-Ryu

ชื่อ “Goju-Ryu” มีความหมายถึง “วิถีของแข็งและอ่อน” โดยคำว่า “Go” หมายถึงความแข็งแรง ความมุ่งมั่น และพลังที่ใช้ในการโจมตี ขณะที่ “Ju” หมายถึงความอ่อนโยน การยืดหยุ่น และการหลีกเลี่ยงในลักษณะของการป้องกันตัว แนวคิดนี้มาจากข้อความในบทกวีโบราณของจีนที่กล่าวว่า “ทุกสิ่งล้วนต้องมีทั้งแข็งและอ่อน” ซึ่งชุนสุเกะได้ยึดถือเป็นหลักปรัชญาของสำนัก เพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจผ่านการฝึกฝน

ผู้นำและผู้สืบทอดสำนัก Goju-Ryu ที่มีชื่อเสียง

หลังจากชุนสุเกะได้ก่อตั้ง Goju-Ryu ขึ้น สำนักนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยผู้นำรุ่นต่อ ๆ มา ซึ่งมีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเช่น มิยาเกะ ชินโซ (Miyagi Shinzato) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดและปรับปรุงเทคนิคต่าง ๆ ให้เข้ากับการฝึกในยุคใหม่ ชินโซได้ทำการศึกษาการเคลื่อนไหว การหายใจ และการควบคุมพลังที่ละเอียดอ่อน ซึ่งช่วยเสริมสร้างให้ Goju-Ryu มีเทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังคงรักษาความเป็นต้นฉบับที่สืบทอดจากจีน

การถ่ายทอดเทคนิคต่าง ๆ ของ Goju-Ryu ไม่เพียงแต่เน้นด้านการป้องกันตัวและการต่อสู้ แต่ยังให้ความสำคัญกับการฝึกฝนทางด้านจิตใจ เช่น การมีสมาธิ การควบคุมตนเอง และการเสริมสร้างจิตใจให้แข็งแกร่ง สำนัก Goju-Ryu จึงเป็นมากกว่าศิลปะการต่อสู้ทั่วไป แต่เป็นการฝึกฝนเพื่อสร้างสมดุลและความกลมกลืนของชีวิต ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงได้รับความนิยมและถูกฝึกฝนอย่างกว้างขวางทั่วโลก

Share:

You May Also Like